วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อรถยนต์มือสอง ขายป้ายทะเบียนประมูล



พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อรถมือสองทุกชนิด ให้ราคาดี
ขายป้ายทะเบียนประมูล ป้ายกราฟฟิค ป้ายขาวดำเลขสวย
ป้ายทะเบียน VIP มีให้เลือกกว่า 1,000 ป้าย

จะขายรถ ติดต่อเรา พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์
โทร.086-367-3107 Line id : morlml


หรือต้องการป้ายทะเบียนเลยสวย ติดต่อเรา พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์
โทร.086-367-3107 Line id : morlml


www.รู้เรื่องรถ.com
http://พีรพล-ทักษิณทวีทรัพย์.blogspot.com/
http://rooruengrod.lnwshop.com/
https://tabiensuayblog.wordpress.com/
http://tabienrodmongkhon.weebly.com/
https://www.facebook.com/rooruengrod/







พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เลขที่ไม่ควรมีในทะเบียนรถ แต่ละวันเกิด By พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์



พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อขายทะเบียนรถเลขสวย ขายทะเบียนรถเลขมงคล ทะเบียนประมูล จัดหาทะเบียนเลขสวย ติดต่อคุณพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ 
Line id : morlml / โทร. 086-367-3107

ศาสตร์ตัวเลข เป็นหนึ่งในศาสตร์ที่มีมานาน ตัวเลขไม่เพียงสามารถใช้ในการคำนวณซึ่งเป็นพื้นฐานของวิชาการด้านต่างๆ แต่ตัวเลขยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกใช้ในวิชาพยากรณ์ซึ่งเป็นศาสตร์โบราณที่มีในแทบทุกอารยะธรรม ซึ่งมีความเชื่อว่าอิทธิพลของตัวเลขส่งผลต่อชีวิตของคนเราได้ และรอบๆ ตัวของเรายังเต็มไปด้วยสิ่งที่สามารถถูกแทนค่าได้ด้วยตัวเลขกันมาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก บ้านเลขที่ของที่อยู่อาศัย ฤกษ์ยามในการทำกิจการกิจกรรมต่างๆ นานา และ... รวมไปถึงเลขของทะเบียนยานพาหนะ มันจึงไม่แปลกเลย ที่เรามักได้ยินคนพูดถึงเรื่อง ทะเบียนรถเลขสวย...
อย่างไรก็ตามเรื่องของ ทะเบียนรถเลขสวย นั้น เราไม่เพียงต้องทราบว่าเลขใดเป็นเลขที่ดี ที่สามารถส่งผลด้านบวก ที่เราควรมรเลขนั้นๆ อยู่ในทะเบียนของรถ แต่... เรายังควรทราบด้วยว่ามันมีเลขหมายใดที่ไม่ต้องตามโฉลก เป็นเลขที่ขัดขวางหรือเป็นอริกับดวงชะตาของเรา ซึ่งสำหรับคนแต่ละวันจะมีตัวเลขเหล่านี้ไม่เหมือนกัน
ตัวเลขที่ไม่ต้องตามโฉลกของคนแต่ละวัน แต่เราต้องเว้นไม่ให้มีอยู่ใน ทะเบียนรถเลขสวย ของเรา
1.ตัวเลขที่ไม่ควรมีในป้ายทะเบียนสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ ได้แก่หมายเลข 3 และหมายเลข 6 และในการออกรถไม่ควรออกในวันอังคารและวันศุกร์ เนื่องจากเป็นวันที่ขัดกับวันเกิดของผู้ที่เกิดในวันอาทิตย์
2.ตัวเลขที่ไม่ควรมีในป้ายทะเบียนสำหรับคนเกิดวันจันทร์ ได้แก่หมายเลข 1 และหมายเลข 5 และไม่ควรเลือกรถที่เป็นสีแดง เนื่องจากขัดกับวันเกิดของผู้ที่เกิดในวันจันทร์
3.ตัวเลขที่ไม่ควรมีในป้ายทะเบียนสำหรับคนเกิดวันอังคาร ได้แก่หมายเลข 1 และหมายเลข 2
4. ตัวเลขที่ไม่ควรมีในป้ายทะเบียนสำหรับคนเกิดวันพุธ แบ่งออกเป็น 2 ชุด เนื่องจากตามหลักโหราศาสตร์วันพุธจะถูกแบ่งเป็นพุธกลางวันและพุธกลางคืน มีพื้นด้วงแตกต่างกัน เลขต้องห้ามสำหรับพุธกลางวันคือ เลข 3 และ 8 ส่วนกลางคือ เลข 4 และ เลข 5
5.ตัวเลขที่ไม่ควรมีของคนที่เกิดวันพฤหัสได้แก่ เลข 7
6.ตัวเลขที่ไม่ควรมีในทะเบียนรถของคนที่เกิดวันศุกร์ได้แก่ เลข 7 และ เลข 8
7.ตัวเลขที่ไม่ควรมีในทะเบียนของคนเกิดวันเสาร์ได้แก่ เลข 4 และ เลข 6

นี่เป็นตัวเลขที่ไม่ควรมีใน ทะเบียนรถเลขสวย ของคนที่เกิดในแต่ละวัน ดังนั้นการที่มีคนบอกว่านี่เป็นป้าย ทะเบียนรถเลขสวย สำหรับคนหนึ่งอาจจะยังไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่งที่เกิดในวันที่ต่างกัน เราจะต้องดูให้ดีด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สายพานไทม์มิ่งคืออะไร By พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

                

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อขายรถมือสอง รถยนต์ทุกยี่ห้อ ซื้อขายทะเบียนประมูล ขายทะเบียนรถเลขสวย ขายทะเบียนรถเลขมงคล จัดหาทะเบียนสวย โทร.086-367-3107



              สายพานไทม์มิ่ง หรือที่หลายคนเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า สายพานราวลิ้นนั้น เป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญมาก ที่ประกอบอยู่ในเครื่องยนต์ ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่รถยนต์รุ่นเก่า และยังคงใช้กันอยู่ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน สายพานไทมิ่งจะทำหน้าที่ในการถ่ายทอดกำลัง จากเพลาข้อเหวี่ยงไปยังเพลาราวลิ้น เพื่อให้ทำงานได้อย่างลงตัว และสัมพันธ์กันได้เป็นอย่างดี แล้วเพลาราวลิ้นจึงถ่ายทอดกำลังไปยังกระเดื่องวาล์วอีกที เพื่อเปิด - ปิดวาล์วของไอดีและไอเสีย ซึ่งหากการถ่ายทอดกำลังผิดจังหวะ จะทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายขึ้นได้ ผู้ผลิตรถยนต์จึงได้หันมาใช้โซ่ไทมิ่งที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า

                อายุการใช้งานของสายพานไทม์มิ่งนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 11.5 แสนกิโลเมตร แต่ก็มักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย อย่างเช่นนิสัยในการขับขี่ยานพาหนะของแต่ละคน การตั้งสายที่ตึงหรือว่าหย่อนจนเกินไป รวมไปจนถึงคุณภาพของสายพายเส้นนั้นด้วย เจ้าของรถจึงควรเลือกใช้สายพานไทม์มิ่ง ที่มีคุณภาพจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ หรือใช้ของแท้จากศูนย์บริการโดยตรงจะดีที่สุด และผู้ใช้รถควรจะต้องมีการตรวจสอบสายพานอยู่เป็นประจำ เพราะหากใช้งานไปแล้วระยะหนึ่ง สายพานไทมิ่งจะมีการยืดตัวออกอีก จึงต้องปรับตั้งค่าความตึงของสายพานใหม่ และหากใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว สายพานไทม์มิ่งที่เริ่มหมดอายุการใช้งานจะมีลักษณะแข็ง ฉีก และแตก หรือฉีกขาดชำรุด ซึ่งก็ต้องรีบเปลี่ยนทันทีก่อนที่จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้

                หากสายพานไทม์มิ่งขาดในตอนที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน จะทำให้เพลาลูกเบี้ยวหรือเพลาราวลิ้นหยุดทำงานหรือหยุดหมุน แต่กลไกการทำงานของราวลิ้นจะยังคงใช้ได้อยู่ และเครื่องยนต์จะยังไม่หยุดทำงาน ซึ่งมันจะส่งผลทำให้วาล์วชนเข้ากับลูกสูบจนเกิดความเสียหายได้ ลูกสูบอาจจะแตก วาล์วไอดี ไอเสียคดงอหรือหัก เครื่องยนต์หลายรุ่นจึงถูกออกแบบมา เพื่อให้หัวลูกสูบทำมุมหลบในกรณีนี้ จะได้ป้องกันความเสียหายดังกล่าว ที่อาจจะเกิดขึ้นหากสายพานไทมิ่งเกิดขาดขึ้นมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนสายพานใหม่ ตามระยาเวลาที่กำหนด ถึงแม้ว่าสภาพภายนอกของสายพานที่เราเห็นๆ จะยังดูดีอยู่ก็ตาม และการเปลี่ยนสายพายไทม์มิ่งทุกครั้ง ก็ควรจะเปลี่ยนลูกรอกไปด้วยเลยทั้งชุด ซึ่งลูกรอกนี้อาจจะมีตัวเดียว หรือสองตัวนั่นขึ้นอยู่กันรุ่นของรถคันนั้นๆ ด้วย


                สำหรับใครที่ซื้อรถมือสอง ก็อย่างลืมถามเจ้าของรถคนเก่าด้วย ว่าเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หากเจ้าของคนเก่าใช้งานมานานแล้ว โดยไม่มีการเปลี่ยนสายพานไทมิ่งมาก่อนเลย ก็ควรจัดการเอารถไปเปลี่ยนสายพานไทมิ่ง ก่อนที่จะนำรถมาใช้จริงๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

เทคนิคเลือกลายดอกยางรถยนต์ ให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย



การใช้รถยนต์บนถนนนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือ ความปลอดภัยในการขับขี่ ตลอดเส้นทาง และจุดที่จะต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ ก็คือยางรถยนต์นั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะสภาพของยางรถที่เสื่อมสภาพลงและลายดอกยางที่ไม่เหมาะกับพื้นที่ในการใช้งานย่อมก่อให้เกิดอันตรายได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ วันนี้เราจึงมาแนะนำการเลือกดอกยางรถยนต์ให้เหมาะสมและปลอดภัยกับการใช้งานกันครับ

ลายดอกผสม
ลายดอกยางแบบผสม เป็นยางรถยนต์ที่สามารถเกาะยึดถนนได้เป็นอย่างดี ป้องกันการลื่นไถลออกด้านข้างและสามารถใช้งานได้ดีแม้รถวิ่งบนพื้นถนนที่มีน้ำเปียกอยู่ก็ตาม โดยลายดอกผสมนี้จะเป็นการผสมระหว่างลายดอกละเอียดและลายดอกบั้ง จึงทำให้ยางมีความคงทนและยึดเกาะได้ดีนั่นเอง ลายดอกดังกล่าวจึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป หรือหากต้องวิ่งไปบนถนนที่มีความขรุขระ ยางรถยนต์ลายดอกแบบนี้ก็นับว่าเหมาะสมในการเลือกใช้ไม่น้อยเช่นกัน
ลายดอกละเอียด
ลายดอกละเอียด เป็นยางรถยนต์ที่ใช้งานได้ง่าย บังคับเลี้ยวได้สะดวก แถมยังสามารถยึดเกาะถนนได้ดีอย่างมาก ที่สำคัญคือ ยางแบบนี้สามารถระบายความร้อนได้ดีจึงไม่ทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย ซึ่งก็เหมาะกับรถโดยสารหรือการขับบนเส้นทางที่มีความเคี้ยวคดบ่อยๆ
ลายดอกบล็อก
ลายดอกบล็อก เป็นยางรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีสมรรถนะในการเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังใช้ได้กับทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นถนนปูนซีเมนต์ ถนนลูกรัง หรือถนนดินทราย อีกทั้งยังเหมาะกับการขับด้วยระดับความเร็วมากๆ อีกด้วย โดยเฉพาะการใช้งานกับรถเก๋ง
ลายดอกบั้ง
ลายดอกบั้ง เป็นยางรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่รถขนาดใหญ่ อย่างรถบรรทุก รถสิบล้อเป็นที่สุด รวมถึงรถที่มีการขับเคลื่อนไม่เร็วมากนัก ซึ่งจุดเด่นของยางรถยนต์แบบนี้ก็คือมีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและคุ้มค่า อีกทั้งยังเหมาะกับการขับบุกไปบนเส้นทางที่ลำบากอีกด้วย
การเลือกใช้ยางรถยนต์ ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยตลอดการใช้งานและความคุ้มค่าของยางรถด้วย โดยยางรถยนต์แต่ละประเภทนั้นก็จะมีความเหมาะกับพื้นที่และความเร็วในการขับที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ก่อนเลือกใช้ยางรถแบบไหน ก็ควรสำรวจสภาพการใช้งานโดยรวมด้วยนะครับ อย่างเช่น หากคุณต้องขับบนถนนที่มีความขรุขระ ลุยโคลน ลุยทราย หรือขับบนถนนที่มีความเคี้ยวคด การเลือกยางที่เหมาะสมกับการใช้งานอย่างสมบุกสมบันเช่นนี้จะทำให้การใช้บังคับรถยนต์เป็นไปง่ายขึ้น และมีความปลอดภัยตามมาสูงขึ้นอีกด้วย

รับซื้อรถขายรถยนต์มือสอง ขายทะเบียนรถเลขสวย
Line id : morlml
Call 086-367-3107

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

เทคนิคการเลือกซื้อรถมือสอง



ท่านที่ต้องการซื้อรถมือสองหรือรถใหม่ก็แล้วแต่ ควรรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวเองเสียก่อนว่าจะนำรถไปใช้เพื่อวัตถุ ประสงค์อะไรปัจจัยต่อไปที่เราจะพูดถึงก็คือ การพิจารณาในการเลือกซื้อรถมาใช้ ควรดูว่ารถที่เราจะขับเป็นรถยี่ห้ออะไร และมีศูนย์บริการหรือบริการหลังการขายอย่างไร อะไหล่มีราคาถูกหรือราคาแพงและหาได้ง่ายหรือไม่ เพราะรถมือสองอาจจะต้องมีการซ่อมหลังจากการซื้อมามากหน่อย ซึ่งถ้าเป็นรถทางค่ายยุโรปอาจจะมีปัญหาเรื่องการหาอะไหล่ราคาถูกได้ยาก
หรืออาจจะต้องรออะไหล่นาน สิ่งเหล่านี้สามารถดูได้จากความนิยมในการใช้ทั่วๆ ไป ถ้ามีความนิยมใช้มากอะไหล่ก็จะหาได้ง่ายและมีราคาถูก ดูปีที่ผลิตรถว่ารถเก่าไปไหม หรือจะใช้ได้อีกนานหรือไม่ ดูว่าหากต้องการขายต่อ ยังพอได้ราคาอยู่หรือเปล่า ดูเลขกิโลเมตรกับปีรถว่าเหมาะสมกันหรือไม่ ซึ่งเรากำลังจะกล่าวถึงรายละเอียดในหัวข้อต่างๆ ต่อไปนี้ครับ

1. การตรวจเช็คสภาพภายนอกของรถยนต์ คือ การดูตัวถังภายนอกและการดูสีของรถยนต์ การดูสีของรถยนต์ควรดูที่สว่างๆ แต่ไม่ใช่กลางแดดจัด ให้มีแสงพอสมควร เริ่มจาก
1.1 ยืนในต่ำแหน่งหน้ารถ แล้วนั่งลงมองในระดับฝากระโปรงหน้าทั้งด้านซ้าย และด้านขวาดูเส้นขอบตรงหน้ารถไปจรดท้ายที่เป็นเส้นตรงว่ารอยหรือเส้นขอบ ต่างๆ ผิดเพี้ยนหรือไม่ถ้าดูแล้วมีรอยยุบของเส้นขอบต่างๆ ที่ไม่ต่อเนื่องสันนิษฐานได้ว่ารถคันนี้ได้มีการทำสีมาแล้ว
1.2 เดินดูรอบรถโดยดูเส้นขอบของประตูเป็นแนวเดียวกันหรือไม่ มีรอยโค้ง รอยนูนหรือเว้าหรือไม่
1.3 ดูช่องว่างระหว่างประตูแต่ละบานว่าเหมาะสมกันหรือไม่
1.4 ดูตัวถังว่ามีการโป๊วสีมาหรือไม่ โดยการใช้นิ้วดีดหรือเคาะเพื่อทำการฟังเสียง โดยทำรอบๆ ตัวรถบริเวณที่มีเสียงทึบมีโอกาสเป็นไปได้ว่ารถได้มีการทำสีมาก่อน เสียงที่ดีต้องเป็นเสียงป็อกๆ ถือว่าใช้ได้
1.5 ต่อไปให้ดูว่าผิวสีเรียบเป็นปรติเหมือนกันทั้งคันหรือไม่ เพราะถ้าผิวสีที่มีรอยนูนหรือเว้า หรือลักษณะของสีที่แตกต่างกัน
1.6 ดูส่วนประกอบรอบๆ รถ เพื่อที่จะบอกได้ว่าเจ้าของเก่ามีการใช้รถเป็นอย่างไร

2. การดูภายในห้องเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น เริ่มจาก

2.1 ดูที่คานหน้าหม้อน้ำ ทั้งด้านบนและล่าง รูน๊อตยึดต่างๆ กลมเป็นปรกติหรือไม่
2.2 ดูสภาพของสีกลมกลืนทั้งห้องเครื่องยนต์หรือไม่ ถ้าสีเหมือนกันแต่พ่นใหม่อาจจะมีการยกเครื่องออกมา เพื่อทำการซ่อมตัวถังหรือซ่อมเครื่องยนต์
2.3 ดูตะเข็บรอยต่อเป็นปรกติ เหมือนกันทั้ง 2 ข้าง
2.4 ดูซุ้มล้อหน้าซ้าย,ขวา สังเกตสติ๊กเกอร์ NAME PLATE ว่ามีหรือไม่ สภาพเป็นปกติหรือเปล่า
2.5 ดูร่องน้ำไหล ทั้งซ้ายและขวา ง่ามีรอยบุบหรือคดบ้างหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้ จะบ่งบอกถึงการเกิดอุบัติเหตุหรือเพียงแค่ทำสีใหม่เท่านั้นควรดูให้ดี

3. การดูเครื่องยนต์

3.1 คราบหรือร่องรอยของการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง
3.2 ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก, คลัทช์, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ สีต้องเป็นปกติและสะอาด
3.3 ระดับน้ำยาหล่อเย็น จะต้องอยู่ในระดับที่กำหนด
3.4 ระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ สีและกลิ่นของน้ำมัน
3.5 ระดับน้ำมันเครื่องจะต้องอยู่ในระดับที่กำหนด สีและกลิ่นต้องอยู่ในสภาพที่ดี
3.6 สภาพของสายพานต่างๆ จะต้องไม่แตกร้าว ความตึงพอเหมาะ
3.7 ตรวจหม้อน้ำ,ฝาปิดหม้อน้ำ จะต้องไม่รั้วและมีน้ำอยู่ในระดับที่พอเหมาะ
3.8 สภาพของสายไฟในห้องเครื่องยนต์ จะต้องจัดเก็บเรียบร้อย
3.9 แบตเตอร์รี่จะต้องไม่บวม ขั้วแบตเตอร์รี่สภาพดี และดูอายุของแบตเตอร์รี่,สภาพของน้ำกลั่น
3.10 ติดเครื่องฟังเสียงของเครื่องยนต์ว่าผิดปกติหรือไม่ และจะติดเครื่องได้โดยง่าย
3.11 เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วสังเกตเสียงว่าผิดปกติหรือไม่ เครื่องยนต์เดินเรียบหรือเปล่า
3.12 ตรวจการรั่วของกำลังอัด ดูไอน้ำมันเครื่อง โดยดึงก้านวัดน้ำมันขึ้นมาดูว่ามีควันหรือกลิ่นไหม้ ถ้าไม่มีถือว่าใชได้ และจะต้องไม่มีแรงดัน ดันออกมาทางด้านก้านวัดน้ำมันด้วย
3.13 เดินไปท้ายรถสังเกตควันที่ออกจากท่อไอเสีย จะต้องไม่ขาวและดำ ถ้าผิดปกติแสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานบกพร่อง อาจจะต้องมีการทำเครื่องยนต์ใหม่

4. การดูห้องโดยสาร

4.1 แผงหน้าปัทม์ ดูไฟเตือนต่างๆ ขณะเปิดสวิทซ์กุญแจ ต่อจากนั้นสตาร์ทเครื่อง ไฟเตือนต่างๆ จะต้องดับลง
4.2 ระบบเครื่องเสียงใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
4.3 ระบบปรับอากาศ อุณหภูมิของลม การปรับตั้ง Mode, Fan, Temperature ทำงานได้ดีหรือเปล่า
4.4 ไฟส่องสว่างภายในรถ เช็คสัญญาณไฟเลี้ยว, ไฟสูง ว่าติดที่หน้าปัทม์หรือไม่ขณะทำการเปิด
4.5 กระจกหน้าต่างทุกบานปิดสนิทหรือไม่
4.6 เบาะนั่งอยู่ในสภาพใช้งานได้เป็นปกติสามารถทำการปรับตั้งได้หรือไม่

*โดยรวมสภาพของห้องโดยสาร จะต้องสัมพันธ์กับอายุของรถ เลขกิโลเมตร่าเหมาะสมกันหรือไม่

5. ดูห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ การดูคล้ายๆ กับห้องเครื่องยนต์

5.1 รอยตะเข็บต่างๆ ,รอยเชื่อม,รอยบัดกรี จะต้องไม่ผิดเพี้ยนจากจุดใกล้เคียง
5.2 ร่องรอยการทำสี ว่ามีสีที่ดูใหม่กว่าจุดอื่นหรือไม่
5.3 รางน้ำฝากระโปรง ต้องไม่เสียรูป
5.4 ถ้าเป็นรถเก๋งควรเปิดพรมท้ายรถดูว่ามี เครื่องมือ, ยางอะไหล่อยู่หรือเปล่า และตรวจดูว่ามีน้ำขังอยู่หรือไม่ ถ้ามีอาจเกิดจากการรั่วของรอยตะเข็บบริเวณรางน้ำของฝากระโปรงท้ายได้

6. ตรวจสอบช่วงล่าง โดยรถยนต์กับที่

6.1 กดรถทางด้านหน้าและหลัง เพื่อดูการทำงานของโช๊คอัพจะต้องไม่แข็งและเด้งเร็วเกินไป และดูว่ามีคราบน้ำมันจำนวนมากที่บริเวณโช๊คอัพหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าน่าจะชำรุด
6.2 ดูยางทั้ง 4 เส้นว่าสภาพของดอกยางมีการสึกหรอสม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าไม่สม่ำเสมอแสดงว่าช่วงล่างและศุนย์ล้อน่าจะมีปัญหาสังเกตยางมีการปริแตก หรือฉีกขาดหรือเปล่า ยางยี่ห้อเดียวกันและรุ่นเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ เพราะยางแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะมีการออกแบบมาใช้งาน และการบรรทุกจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับการผลิตของยางยี่ห้อนั้นๆ ถ้าใช้ยางผิดประเภทจะทำให้เกิดอันตรายได้

6.3 ระยะฟรีพวงมาลัยจะต้องมีเล็กน้อย ถ้ามากเกินไปเป็นไปได้ว่า ลูกหมากจะมีปัญหา
6.4 ถ้าสามารถทำการตรวจสอบใต้ท้องรถได้ ให้ดูว่ามีการผุกร่อนของตัวถังบริเวณใต้ท้องหรือไม่ แซสซีส์ต้องตรงไม่การ บิดเบี้ยว ผุ หรือทีรอยเชื่อมที่เกิดจากการหักของแซสซีส์

7. การทดสอบโดยการขับขี่ ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกขับตามสภาพถนนหลายๆ แบบ

7.1 ทดสอบระบบรองรับว่าทำงานได้ดีหรือไม่ เช่นโช๊คอัพ, สปริง, แหนบ ขณะทำการวิ่งทดสอบว่ามีเสียงดังเกิดจากช่วงล่างหรือไม
7.2 ขณะทำการเร่งเครืองยนต์ มีเสียงดังเกิดขึ้นผิดปรกติหรือไม่
7.3 ขณะรถวิ่งมีเสียงเข้ามาในห้องโดยสารมากน้อยเพียงใด
7.4 เวลาวิ่งด้วยความเร็วสูงรถควรมีการเกาะถนนที่ดีพอ และจะต้องไม่มีอาการส่ายหรือโครงไปมา
7.5 ทดลองเลี้ยวซ้ายและขวาดูว่า ช่วงล่างเกิดเสียงดังหรือไม่
7.6 การทำงานของเบรกระบบ ABS ทำงานเป็นปกติหรือไม่ โดยทำงานของเบรก ABS ขณะเบรกแบบกระทันหันจะมีการเคลื่อนตัวขึ้นลงแป้นเบรกเป็นระยะ ในขณะที่ไม่ได้ถอนเท้าออกจากแป้นเบรก ถ้ามีแสดงว่าเป็นปกติ
7.7  ทดสอบศูนย์ขณะรถวิ่ง ว่าดึงไปมาข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่ และพวงมาลัยตรงพอดีหรือไม่
7.8 การตัดต่อของคอมเพรสเซอร์แอร์ขณะขับขี่มีเสียงดังเป็นปกติหรือไม่ หากมีเสียงดังเกินไปอาจเกิดจากลูกปืนคลัทช์หน้าคอมเพรสเซอร์แอร์ชำรุด
7.9 หลังจากขับทดสอบแล้วให้ติดเครื่องทิ้งไว้สักครู่ เพื่อดูความผิดปกติอีกครั้ง

8. การดูเอกสารเล่มทะเบียนรถยนต์

เราจะรู้ประวัติของรถยนต์เบื้องต้นได้โดยการตรวจสอบดูจากเล่มทะเบียนรถยนต์ จะทำให้ทราบว่ารถคันนี้ผ่านการใช้งานมาแล้วกี่ราย มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์และสีของรถยนต์หรือเปล่า ควรเลือกซื้อรถที่ผ่านการใช้งานมามือเดียว หรือจากเจ้าของคนเดียว จะช่วยให้เราสามารถซักถามประวัติการใช้รถได้ เอกสารที่ควรใส่ใจมากที่สุด คือสมุดจดทะเบียนไม่ควรมีการแก้ไขโดยไม่มีลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ขนส่ง กำกับ หากสมุดจดทะเบียนมีข้อน่าสงสัยไม่ควรทำการซื้อขายรถคันดังกล่าว


แต่พอจะสรุปสุดท้ายก็คงต้องดูที่ราคาว่าเหมาะสมกับรถไหม เพราะการซื้อรถมือสองก็ต้องดูตามสภาพความเป็นจริงว่าสภาพรถขนาดนี้ ราคาก็น่าจะอยู่ประมาณนี้ เพราะถ้าจะเอารถมือสองคุณภาพเทียบเท่ารถใหม่ จะให้ราคาถูกก็คงหาได้ยากหรือหาไม่ได้เลย เพระาฉะนั้นควรระลึกไว้ด้วยว่าของถูกและดีไม่มีในโลก ควรเลือกแบบที่เหมาะสมกับราคาตามสภาพรถ และวัตถุประสงค์ของการใช้งานครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.phithan-toyota.com


รับซื้อรถขายรถยนต์มือสอง ขายทะเบียนรถเลขสวย
Line id : morlml
Call 086-367-3107